เดินทางถึงจังหวัดกระบี่ เติมพลังก่อนเริ่มภารกิจกับอาหารปักษ์ใต้สูตรดั้งเดิมที่ร้านเรือนไม้ ร้านดังประจำจังหวัด
ออกเดินทางไปที่ชุมชนแหลมสัก ชุมชนที่ล้อมรอบด้วยทะเลสามด้าน วัฒนธรรมสามสาย สุดปลายแหลม ในวันแรก เราจะทำความรู้จักในเรื่องความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกันอย่างลงตัว ผ่านเรื่องราวที่บอกเล่าโดยคนท้องถิ่น เดินทางโดยซาเล้งคู่ใจไปร่วมกิจกรรมตามฐานที่จะทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมนั้นๆไปในตัว สถานที่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นศูนย์รวมใจของผู้คนที่นี่ เช่น ศาลเจ้าจีน ร้านโรตี และไปจบที่วัดแหลมสักเพื่อชมพระอาทิตย์ตกที่จุดสูงสุดของชุมชนซึ่งสามารถมองเห็นวิวแหลมสักได้360องศา
รับประทานอาหารเย็นในสไตล์บาบ๋า ยาหยา ที่บุหลัน อันดา บาบ๋า รีสอร์ท พร้อมกับชมการแสดงระบำตารีกีปัสหรือลิเกฮูลูจากเยาวชนในท้องถิ่น
ตื่นตั้งแต่หัวรุ่งเพื่อออกเรือ ไปยืดเส้นยืดสายอาบแสงแรกที่ตุกนทรายกลางทะเลหรือสันทรายกลางทะเล หนึ่งในความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่แต่ละวันจะปรากฎให้เห็นในต่างเวลากัน แล้วรับโจทย์ คำแนะนำเกี่ยวกับภารกิจทั้งหมดในวันนี้ที่แต่ละคนในทีมจะต้องใช้ความถนัดของตนเองเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับทีมร่วมกัน
เมื่อวอร์มร่างกายเรียบร้อยแล้วก็ออกพายเรือคายัคไปยังอ่าวฉิ้งฉั้ง เป็นหาดทรายสงบเป็นส่วนตัวเพื่อรับประทานอาหารเช้า พักผ่อนเล่นน้ำ
เริ่มกิจกรรม Nature Race เรียนรู้วิถีคนแหลมสักที่อยู่กับทะเลผ่านภารกิจต่างๆที่ต้องใช้ทักษะในการดำรงชีวิตของคนท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ เช่น การทอดแห การวางอวน ตักกุ้ง การเลี้ยงปลา กุ้งมังกรในกระชัง เป็นต้น โดยระหว่างที่ทำกิจกรรม จะได้ล่องเรือชมทัศนียภาพเขาหินปูนรอบแหลม ชมภาพเขียนโบราณที่ถ้ำชาวเลไปด้วย โดยมีไกด์ชุมชนคอยอธิบายและเล่าเรื่องราวต่างๆ
แวะที่กระชังสาหร่ายพวงองุ่นของชุมชน เรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกสาหร่าย และพักรับประทานอาหารกลางวัน โดยเมนูที่ชุมชนจัดเตรียมเป็นข้าวคลุกกะปิกุ้งตัก ซึ่งใช้กะปิคุณภาพดีจากชุมชนที่ผลิตเองแกล้มกับสาหร่ายพวงองุ่นเคี้ยวกรุบ หรืออาจจะอุดหนุนกุ้งมังกรจากกระชังของชาวบ้านข้างเคียงมาแล่รับประทานกันแบบสดๆก็สามารถทำได้
อาสาคืนกล้วยไม้สู่ป่ากับกลุ่มอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้ท้องถิ่นของชุมชนที่บริเวณบ้านอ่าวน้ำ และแวะซื้อกะปิขึ้นชื่อของแหลมสักที่สามารถเห็นถึงกระบวนการทำได้ถึงที่โรงตากกะปิเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพ เสร็จแล้วเตรียมกลับที่พักเพื่ออาบน้ำอาบท่า พักผ่อน
เมื่อน้ำลด ถ้าทีมยังไม่หมดแรง สามารถเพิ่มกิจกรรมลงเก็บวัตถุดิบเด็ดสุดท้ายมาทำอาหารเย็น นั่นคือหอยแครง ซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของคนแถวนี้ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญการเก็บหอยแครงด้วยการถีบกระดานเลนมาแนะนำกันอย่างใกล้ชิด
รับประทานอาหารเย็นอาหารทะเลบาร์บีคิวปิ้งย่างที่อ่าวลึก พาโนรามิค วิลล่า
ชมพระอาทิตย์ขึ้นหลังสันเขาสะท้อนกับผืนน้ำและหมอกยามเช้าแสนสงบที่หนองทะเล หนองน้ำจืดที่แสนอุดมสมบูรณ์ของกระบี่ พร้อมกับรับประทานอาหารเช้าบนเรือ พูดคุยสรุปกิจกรรมตลอดสามวันกับทีมงาน
ก่อนกลับบ้าน แวะทำผ้าบาติคทั้งแบบดั้งเดิมและประยุกต์เป็นของที่ระลึกไปฝากคนที่บ้านที่ดาหลาบาติคกับครูธนินทร์ธร รักษาวงศ์ ครูช่างศิลปหัตถกรรมประจำปี2556 จากศูนย์ศิลปาชีพระหว่างประเทศ
รับประทานอาหารกลางวันและเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร